หนังสือ มหัศจรรย์แห่ง ไข่ไก่
& และน้ำส้มสายชูหมัก
รักษา 100 โรค
เรียบเรียงโดย ชาตรี แซ่บ้าง
--------------------------------------------------
เสียงอ่านหนังสือ ผมขออนุญาตอ่านให้ฟังในบทความนี้
^_^
ถ้ามีคนสนใจ ผมจะทยอย ๆ อ่าน ในบทความอื่นด้วย
ส่วนตัวควบคุมเสียงอยู่ด้านล่างนะครับ
....................
มีข้อบกพร่องตรงไหนก็ขออภัย....ล่วงหน้านะครับ....
--------------------------------------------------
คำนำสำนักพิมพ์
เมดอินไทยแลนด์
ก็มันเป็นอย่างนั้น
วันนี้ วันนั้น วันไหน
ปล่อยเขา
ดอกไม้พลาสติก
คำนำสำนักพิมพ์
มีผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่า “ไข่” คืออาหารมหัศจรรย์ ที่พระเจ้าประทานมาให้มนุษย์ คำกล่าวนี้ไม่ได้เหนือความจริงไปแต่ประการใด ด้วยเพราะเหตุผลว่า ไข่ มีธาตุอาหารครบ อาจเรียกได้ว่าครบทุกอย่างที่ใช้ในการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตก็ว่าได้ จะสังเกตได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เกิดออกมาจากไข่ เติบโตเป็นตัวอ่อนแล้วฟักออกมาเป็นตัวได้เองโดยไม่ได้รับสารอาหารเพิ่มเติมจากแม่แต่อย่างใด ดังนั้น จึงแสดงว่าในไข่มีพร้อมทั้ง โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุต่าง ๆ รวมทั้งวิตามินและแคลเซี่ยม ที่สิ่งมีชีวิตต้องใช้ในการเสริมสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้ครบสมบูรณ์เพื่อพร้อมที่จะออกมามีชีวิตอยู่บนโลกภายนอกได้ ต่างจากสัตว์ที่ออกลูกเป็นตัวหรือเลี้ยงลูกด้วยนม จะต้องอาศัยสารอาหารจากแม่ในครรภ์จนครบกำหนดคลอดก่อน ถึงจะมีชีวิตออกมาดูโลกภายนอกได้ จากนั้นยังจะต้องอาศัยน้ำนมจากแม่ในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตต่อไปอีกระยะหนึ่งด้วย ด้วยเหตุนี้ชนชาวจีนตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา ได้คิดค้นและนำ “ไข่” มาเป็นส่วนประกอบในการรักษาโรคและใช้ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ มายาวนานหลายร้อยปีมาแล้ว อนึ่ง เมื่อมีการนำไข่มาผสมกับน้ำส้มสายชูในรูปแบบของการหมักดองหรือต้มนึ่ง และผสมกับยาสมุนไพรรวมเข้าไปด้วย ก็ยิ่งทำให้การรักษาโรคต่าง ๆ ได้ผลดียิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ ทางสำนักพิมพ์ฯ จึงมีความยินดีและรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมถ่ายทอดผลงานการรวบรวมสูตรตัวยาและวิธีรักษาโรคต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของ ไข่ และน้ำส้มสายชูเอาไว้มากกว่า 100 โรค ถ่ายทอดเป็นภาษาไทยโดยอาจารย์ ชาตรี แซ่บ้าง ผู้ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจีนมาอย่างยาวนานเกือบครึ่งค่อนชีวิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์เป็นผู้ที่ดูแลสุขภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับก่อนหน้านั้น อาจารย์ได้ป่วยเป็นโรคที่ยากต่อการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งได้ตระเวนรักษามาเกือบทุกโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ไม่หาย ดังนั้น อาจารย์จึงได้มีการทดลองรักษาและบำบัดร่างกายด้วยยาแผนโบราณควบคู่ไปด้วย “ไข่และน้ำส้มสายชูรักษาได้ 100 โรค” จึงได้ถูกนำมาทดลองรักษาในครั้งนั้นด้วย เป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่ออาจารย์มีการรับประทาน ไข่ น้ำส้มสายชูพร้อมน้ำยาที่ได้ปรุงอย่างต่อเนื่องแล้ว อาการของโรคดังกล่าวเริ่มทุเลาลงเรื่อย ๆ และแล้วก็หายเป็นปกติในที่สุด เมื่อได้กลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยและมีโอกาสอาจารย์จึงได้นำมาถ่ายทอดเป็นภาษาไทย ทั้งนี้เพื่อยังประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจ และต้องการนำไปทดลองทำที่บ้าน ซึ่งสามารถทำได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยาก ประหยัด ราคาถูก และที่สำคัญ คือท่านจะได้รับผลเป็นที่น่าพอใจเหมือนดังเช่นอาจารย์ได้ทดลองมาแล้วอย่างแน่นอน
ด้วยความปรารถนาดี
สำนักพิมพ์ ปัญญาชน
.
คำนำ
ชนชาติจีนมีประวัติยาวนานมากว่า 5,000 ปี และสมุนไพรจีนก็มีบทบาทสำคัญยิ่งสำหรับชีวิตและสุขภาพของชาวจีน น้ำส้มสายชูและไข่ไก่ นอกจากจะนำมาประกอบอาหารที่ขาดไม่ได้แล้ว คนจีนยังนำมาใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย เพราะว่าหาง่ายและราคาถูก ปลอดภัยและที่สำคัญได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี
“น้ำส้มสายชูและไข่ไก่รักษาโรค” เล่มนี้ เรียบเรียงมาจากตำรายารักษาโรคของชาวจีนที่มีมาอย่างยาวนานและผ่านการใช้รักษาผู้ป่วยมาอย่างเห็นผล พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนมาแล้ว ในหนังสือเล่มนี้ได้นำเสนอสูตรเกี่ยวกับการรักษาโรคโดยใช้น้ำส้มสายชูและไข่ไก่ไว้มากมายหลายสูตร ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจที่จะนำไปทดลองปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ประสบกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารผิดสุขลักษณะ โรคเกิดจากสภาพแวดล้อมที่วิกฤต แม้กระทั่งโรคที่เกิดจากความเครียดต่าง ๆ อีกด้วย การรักษาด้วยสูตรไข่และน้ำส้มสายชูนี้ นอกจากจะทำได้โดยง่าย ค่าใช้จ่ายถูกประหยัดแล้ว ยังปลอดภัยต่อผู้ที่รับประทานอีกด้วย
สำหรับเล่มนี้เป็นเล่มที่ 1 ได้รวบรวมสูตรที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับ ระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนโลหิต โรคทางพันธุกรรม โรคติดต่อต่าง ๆ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาท เป็นต้น ซึ่งหากเล่มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ที่สนใจแล้ว ทางผู้เรียบเรียงจะจัดทำเล่มสองอีกต่อไป ซึ่งในเล่มสองนั้น จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรคด้านศัลยกรรม โรคกระดูก โรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับสุภาพสตรี โรคเด็ก และโรค ปาก หู คอ จมูก เป็นต้น
การจัดทำหนังสือเล่มนี้ เพื่อประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจ สามารถนำไปทดลองปฏิบัติได้ด้วยตนเอง หากท่านใดที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ทางผู้เรียบเรียงและทางสำนักพิมพ์ฯ ยินดีรับคำแนะนำเพิ่มเติม และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
ด้วยความปรารถนาดี
ชาตรี แซ่บ้าง
น้ำส้มสายชู
ส่วนประกอบของน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูที่เราใช้บริโภค มีส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับร่างกายมากมาย เช่น กรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารพื้นฐานของโปรตีนก็มีมากชนิด รวมทั้ง 8 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ต้องมาจากอาหาร ยังมีสารประเภทน้ำตาล เช่น น้ำตาลองุ่น น้ำตาลผลไม้ น้ำตาลจากหน่ออ่อนของข้าวสาลี ซึ่งเป็นพลังงานที่สำคัญของร่างกาย และยังมีเกลืออนินทรีย์อีกหลายชนิด
สารเหล่านี้สำคัญมากในการเติบโตของร่างกาย และชะลอความแก่ชรา และขาดมิได้สำหรับระบบการเปลี่ยนถ่ายเซลล์ของร่างกาย
คุณประโยชน์ของน้ำส้มสายชู
เป็นเครื่องปรุงอาหารที่ขาดมิได้สำหรับอาหารแต่ละมื้อ
เติมลงไปในกับข้าว สามารถขจัดรสคาวและความมันที่มากเกินไป สามารถทำให้กับข้าวมีสีสวย รสหอมและอร่อยขึ้น และยังสามารถรักษาสรรพคุณ ในการบำรุงร่างกายไม่ให้เสื่อมลง
ยังสามารถละลายสลายแคลเซี่ยมในอาหาร เพื่อให้ร่างกายดูดรับได้ง่าย
ใช้น้ำส้มสายชูแช่อาหาร สามารถเพิ่มรสชาติของอาหาร และยังป้องกันการบูดเสียของอาหารได้ด้วย
ใช้น้ำส้มสายชูคนกับผักดิบที่สะอาด ทำให้มีรสชาติอร่อยน่ารับประทาน
ทางด้านยา
น้ำส้มสายชูก็มีประโยชน์มาก สามารถสลายลิ่มเลือดเป็นก้อนแข็งในร่างกาย แก้พิษ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยเจริญอาหาร สลายไอน้ำในร่างกาย รักษาความเจ็บปวดจากเลือดลมในท้องและหัวใจ รักษาการเมาจากเลือดหลังคลอด ละลายเสมหะ รักษาโรคดีซ่าน ปากลิ้นเป็นแผล เลือดก้อนจากอาการบาดเจ็บ ขจัดหนอนในธัญพืช ปลา เนื้อ ผัก ฯลฯ คนจีนเอามารักษาคางอักเสบ หรือคางคูม เกลื้อน พยาธิในท่อตับ แก้แมลงพิษกัด รักษาอาการปวดเอว ฯลฯ
ใช้น้ำส้มสายชูแช่เมล็ดถั่วลิสง สามารถรักษาความดันโลหิตสูงและลดคอเลสเตอรอลได้
น้ำส้มสายชู ยังสามารถฆ่าเชื้อโรค และป้องกันโรคติดต่อในลำไส้
ใช้น้ำส้มสายชูแช่ดองยาจีน สามารถเพิ่มสรรพคุณของยา และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคของยาได้
นอกจากนั้น น้ำส้มสายชู ยังรักษาอาการเมาค้างได้ รักษาอาการท้องผูกได้ รักษาโรคเบาหวานได้ ดื่มน้ำส้มสายชูบ่อย ๆ ทำให้พลังงานในร่างกายดีขึ้น ร่างกายแข็งแรง มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ
ทางด้านเสริมสวย
น้ำส้มสายชู ยังมีบทบาทในการกระตุ้นให้ผิวหนังอ่อนนุ่มให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มความไหลเวียนของเลือดบริเวณผิวหนัง และยังสามารถฆ่าเชื้อโรคบนผิวหนังได้ ทำให้ผิวหนังเกลี้ยงนุ่ม
ปัจจุบันน้ำส้มสายชู ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น จากการใช้ปรุงอาหารอย่างเดียว ค่อย ๆ กลายเป็นอาหารที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง และส่วนประกอบของยาในการรักษาโรค เป็นต้น
สรรพคุณในการรักษาโรค และการใช้
สรรพคุณ และการรักษาโรคที่สำคัญคือ
สลายก้อนเลือด ระงับเลือด แก้พิษ ฆ่าหนอน ความสามารถในการรักษาโรค ที่สำคัญคือ รักษาการเมาเลือดหลังคลอด โรคดีซ่าน เหงื่อเหลือง อาเจียนเป็นเลือด เลือดออกจากจมูก อุจจาระเป็นเลือด ปวดท้องจากมีพยาธิ อาการคันของอวัยวะเพศภายนอก เป็นฝีแผลบวม พิษจากปลาสด เนื้อ ผัก ฯลฯ
วิธีใช้ และปริมาณในการใช้
รับประทาน โดยใส่ลงในยาน้ำ หรือคนผสมกับยา เป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ใช้ผสมกับน้ำดื่มครั้งละ 1 ถ้วยเหล้าเล็ก ๆ
ใช้ภายนอก เผาให้ร้อน อบอาการเหม็น ใช้บ้วนปาก ผสมกับยาทาภายนอก
ข้อควรระวังในการใช้น้ำส้มสายชู
1. ผู้เป็นโรคกระเพาะ และโรคเกี่ยวกับเส้นเอ็น โรคอาการหนาวจากภายนอก เริ่มแรก ไม่เหมาะในการรับประทานจะต้องระวังในการรับประทาน เพราะว่า ความเปรี้ยวเป็นผลเสียต่อเอ็น ข้อ กระเพาะ ม้าม
2. ถึงแม้ว่าน้ำส้มสายชูจะมีสรรพคุณมากมาย แต่ในการใช้รับประทานประจำวัน ไม่ควรใช้เกินปริมาณ โดยทั่วไปผู้ใหญ่วันหนึ่ง 20-40 มิลลิลิตร อย่างมากสุด ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร ผู้สูงอายุ คนที่ร่างกายอ่อนแอ สตรี เด็ก คนป่วย ต้องลดปริมาณในการรับประทาน ตามสภาพร่างกายของตนเอง บางคนรับประทานน้ำส้มสายชูปริมาณมาก เพื่อรักษาโรคนั้นไม่ถูกต้อง ดังนั้น การรับประทานน้ำส้มสายชูเพื่อรักษาโรคควรดำเนินไปอย่างวิทยาศาสตร์และเหมาะสม อย่ารีบร้อนเพื่อให้ได้ผลเร็ว เริ่มแรกควรดื่มปริมาณน้อย เพื่อทดลอง หลังจากรับประทานน้ำส้มสายชูแล้วต้องบ้วนปาก เพื่อไม่ให้มันไปทำลายฟัน
3. ใช้น้ำส้มสายชูปรุงอาหาร ต้องใช้กระทะเหล็ก อย่าใช้กระทะอลูมิเนียม และกระทะทองเหลืองทองแดง เพราะว่าการใช้กระทะเหล็กปรุงอาหารธาตุเหล็กก็จะละลายลงไปในน้ำ หากใส่น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุง ปริมาณธาตุเหล็กที่ละลายออกมาก็จะเพิ่มมากขึ้น มีประโยชน์ในการป้องกันและรักษาอาการโลหิตจาง และการขาดธาตุเหล็กได้ แต่หากใช้กระทะอะลูมิเนียมปรุงอาหาร ใส่น้ำส้มสายชูไม่ได้เพราะน้ำส้มสายชูจะทำให้อะลูมิเนียมละลายออกมามากกว่าเดิม ร่างกายเรา หากสะสมอะลูมิเนียมมากเกินไป จะทำลายความเคลื่อนไหวของระบบขับถ่ายบางอย่างลง ทำให้ประสิทธิภาพการย่อยอาหารไม่ปกติ อีกทั้งยังทำให้องค์ประกอบของสมองได้รับความเสียหาย กระทบกับการพัฒนาด้านสติปัญญา โดยเฉพาะระบบประสาท อาจได้รับความเสียหายร้ายแรงได้
น้ำส้มสายชูยังใส่ในกระทะทองเหลืองทองแดงปรุงอาหารไม่ได้ เนื่องจากน้ำส้มสายชูสามารถละลายสารประกอบของทองเหลืองทองแดงได้ หากรับประทานเข้าไปอาจเกิดพิษต่อร่างกายได้
4. ฤดูที่อากาศร้อนมาก น้ำส้มสายชูอาจจะเกิดเชื้อราหรืออาจมีหนอนเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากนำมาใช้ควรจะต้มด้วยอุณหภูมิประมาณ 72 องศาเซลเซียส ประมาณ 5-10 นาที แล้วกรองเอากากออก ก็สามารถนำมาใช้ได้ตามปกติ
วิธีการเก็บรักษาไม่ให้น้ำส้มสายชูเสีย
1. ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย
2. หยดน้ำมันงาลงบนผิวของน้ำส้มสายชูเพื่อเคลือบผิวไว้
3. ใส่กระเทียม 2-3 กลีบ ลงไปในขวดน้ำส้มสายชู
ไข่ไก่
ไข่ไก่ ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่มีสรรพคุณมากมายทั้งทางอาหารและทางการรักษาโรค ซึ่งถือได้ว่าเป็นความแปลกมหัศจรรย์อยู่พอสมควร ความมหัศจรรย์ของไข่ เนื่องจากว่าไข่กำเนิดขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิต และเป็นจุดกำเนิดของชีวิตใหม่ มีความสัมพันธ์กับจิตอารมณ์และเลือดเนื้อ แฝงไว้ด้วยพลังแห่งชีวิต ดังนั้นจึงมีประโยชน์ต่อผู้ที่บริโภคเป็นอย่างมาก เหนือกว่าการรับประทานพืชผักซึ่งไม่มีด้านพลังจิตและอารมณ์
ส่วนประกอบของไข่
ไข่ไก่มีส่วนประกอบด้านโภชนาการที่สมบูรณ์ มีโปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ อนินทรีย์ รวมทั้งสารที่มีส่วนของการหมักย่อยสลาย สารอาหารเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนนาน
โปรตีนของไข่ไก่ เป็นโปรตีนที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโปรตีนจากอาหารชนิดอื่น ๆ ดังนั้น โปรตีนจากไข่ไก่จึงถูกกำหนดให้เป็นค่ามาตรฐานของโปรตีนจากธาตุอาหารชนิดอื่น ๆ อีกด้วย
อาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนต่ำเช่น ธัญพืช เนื้อปลา ฯลฯ หากรับประทานร่วมกับไข่ไก่ จะเป็นการเสริมซึ่งกันและกันได้ดี ยกระดับการใช้โปรตีนของร่างกายให้สูงขึ้น เช่น การรับประทานอาหารที่ขาดกรดอะมิโน หรืออาหารที่มีโปรตีน คุณภาพต่ำ แต่หากรับประทานร่วมกับไข่ไก่ ก็สามารถส่งเสริมกัน ทำให้กลายเป็นโปรตีนมีคุณภาพได้ ไข่สามารถตอบสนองต่อความต้องการพลังในการเสริมสร้างเซลล์ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ไข่ไก่และอาหารประเภทเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เท่ากัน แต่คุณค่าในการเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของร่างกายแตกต่างกันมาก ซึ่งไข่สามารถเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของทางร่างกายได้ดีกว่าเนื้อสัตว์หลายเท่าตัว อีกทั้งไข่ยังมีราคาถูก ดังนั้นควรส่งเสริมให้มีการรับประทานไข่เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ไข่มีปริมาณไขมันประมาณ 10 % ส่วนใหญ่อยู่ในไข่แดง ส่วนไข่ขาวเกือบจะไม่มีไขมันอยู่เลย ส่วนประกอบของไขมันในไข่ไก่ คือฟอสฟอรัส และคอเลสเตอรอล ฟอสฟอรัสเป็นส่วนประกอบหลักของไข่แดง มีบทบาทต่อการฟักไข่เป็นตัว สิ่งที่ฟอสฟอรัสถูกแยกออกเมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะมีบทบาทหรือมีคุณสมบัติในการป้องกันและเสริมสร้าง สมรรถนะของร่างกาย ทำให้ชะลอความแก่ชราลงได้
คอเลสเตอรอล เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งร่างกายไม่สามารถที่จะผลิตออกมาใช้ได้อย่างเพียงพอ ดังนั้น จึงอาศัยการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอล เพิ่มเติม ถึง 1 ใน 3 ส่วน
บทบาทของคอเลสเตอรอล มีดังต่อไปนี้
คอเลสเตอรอล มีบทบาทในการเสริมสร้างฮอร์โมนเพศชาย วิตามินและน้ำดี ฮอร์โมนเพศชายและวิตามินดี มีบทบาทสำคัญในด้านการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์ น้ำดีมีบทบาทในการย่อยสลายไขมัน เพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยและดูดซึมไขมันของลำไส้เล็ก นอกจากนั้น คอเลสเตอรอลยังมีบทบาทในการป้องกันไม่ให้เม็ดโลหิตแดงถูกทำลายได้โดยง่าย และทำให้ผนังหลอดเลือดมีความแข็งแรงไม่แตกได้ง่าย แต่หากคอเลสเตอรอลเกาะสะสมที่ผนังหลอดเลือดมากจนเกินไป จะทำให้เส้นโลหิตแดงเกิดความแข็ง หากหลอดเลือดไม่แข็งแรงพอ ก็จะทำให้หลอดเลือดแตกได้เหมือนกัน เป็นโรคเลือดออกในสมอง ซึ่งจะส่งผลต่อความพิการของร่างกายได้ สุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า “สิ่งต่าง ๆ ไม่มีดีและเลวเสมอไป หากมีมากไปก็จะเป็นภัย” น้ำสามารถให้เรือเดินทางได้ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถให้เรือล่มได้เหมือนกัน” ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเน้นถึงความเหมาะสมด้วย
ในชีวิตประจำวัน หากไม่รับสารคอเลสเตอรอลมากจนเกินไป ไม่เพียงไม่น่ากลัวแล้ว ยังมีความจำเป็นอีกด้วย เพียงแต่ต้องระมัดระวัง ในการรับสารอาหารแต่ละอย่างให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างร่างกายและยังสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้
ในไข่ไก่ มีวิตามินสะสมอยู่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะวิตามินเอ และ บี 2 อยู่ในไข่แดง ส่วนในไข่ขาวก็มีวิตามินบี 2 อยู่เล็กน้อย วิตามินเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นในการฟักไข่ให้เป็นตัวอ่อน และยังเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในระบบของการเกิดขึ้นและย่อยสลายของเซลล์ในร่างกาย ดังนั้น มนุษย์จึงมีความต้องการวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม หากวันหนึ่งเรารับประทานไข่ 2 ฟอง ก็สามารถรับวิตามินเอได้ 50% ต่อวัน และวิตามิน บี 2 ตามสัดส่วน
เหล็กในเกลืออนินทรีย์ ทั้งหมดสะสมอยู่ในไข่แดง ธาตุเหล็กในร่างกายมีบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ดเลือด และเป็นตัวนำพาออกซิเจนเข้าไปหมุนเวียนในระบบโลหิต ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างเสริมสุขภาพ ร่างกายของมนุษย์ หากร่างกายขาดธาตุเหล็กก็จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้
ในไข่ไก่ยังมีสารฟอสฟอรัส ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นกรดฟอสเฟตที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่ขาดไม่ได้ในการให้พลังงานและคงไว้ซึ่งความสมดุลภายในร่างกาย นอกจากนั้นยังมีแคลเซี่ยม โปแตสเซียม สารโซเดียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างเซลล์ในร่างกาย
ในไข่ขาวของไข่ไก่ยังมีกรดชนิดหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทในการย่อยสลายแบคทีเรีย เปลือกของไข่ไก่มีรูพรุนมากมาย สามารถให้อากาศผ่านเข้าออกได้ ถึงแม้เชื้อแบคทีเรียจะสามารถผ่านเข้าไปในไข่ไก่ตามรูพรุนนี้ได้ แต่เมื่อเจอกรดที่สามารถย่อยสลายแบคทีเรียได้ จึงทำให้ไข่ไม่ถูกทำลายและสามารถอยู่ได้นาน ไข่ไก่ที่ต้มสุกทำให้บูดเสียง่ายเนื่องจากกรดในไข่ถูกทำลายลงด้วยความร้อน
นอกจากนั้น กรดดังกล่าวยังสามารถระงับโรคอันเกิดจากเพศสัมพันธ์ที่มีขนาดเล็กได้ รวมทั้งยังสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ได้อีกด้วย
วิธีคัดเลือกและเก็บรักษาความสดของไข่ไก่
วิธีคัดเลือกไข่ไก่
ไข่ไก่เมื่อใช้เป็นสูตรยารักษาโรค ควรเลือกไข่สด ไข่แดงที่แตกกระจายแล้วไม่ควรใช้ ไข่ที่บูดเสียหรือเปลี่ยนสภาพห้ามนำมาใช้เด็ดขาด
วิธีเลือกซื้อไข่สดจากตลาด โดยทั่วไปจะดูจากภายนอกหรือใช้แสงตรวจ ไข่สดข้างบนเปลือกจะมีละอองคล้ายหมอก ไข่จะสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตกหรือรอยจุดจากเชื้อรา มีเงาเกลี้ยง หากใช้มือจับแล้วส่องแสงไฟ หรือทางพระอาทิตย์ ไข่ทั้งฟองจะมีสีแดงอ่อน มองไม่เห็นไข่แดง หรือมองเห็นเป็นเงาดำเล็กน้อย หรือใช้วิธีนำไข่ใส่ลงในน้ำเกลือ ไข่สดจะจมน้ำ ส่วนไข่ไม่สดจะลอยน้ำ
การรักษาไข่สด
1. ฝังไข่ไว้ในเกลือ จะสามารถเก็บได้นานไม่เสียง่าย
2. เอาด้านแหลมของไข่ลงด้านล่าง แล้วเอาไข่ฝังในขี้เถ้าหญ้า
3. ใช้วาสลีนหรือพาราฟินทาบนเปลือกไข่ สามารถป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปในไข่ได้
4. เอาไข่สดใส่ลงแช่ในน้ำด่างสักครู่ นำเอาขึ้นมาผึ่งไว้ สามารถป้องกันแมลงแทะกัด หรือแบคทีเรียเข้าไปได้ สามารถเก็บได้ 2-3 เดือน ไม่เสีย
5. เอาดินสอพอง 50 กรัม และน้ำสะอาด 1,000 มิลลิเมตร ผสมน้ำให้เข้ากันแล้วเทใส่ลงในไห แล้วใส่ไข่สดลงไป สามารถเก็บรักษาไข่สดได้ประมาณครึ่งปีไม่เสีย
6. เอาทรายเหลืองที่ร่อนแล้วตากให้แห้งสนิท เอาไข่ฝังไว้ในทรายหนึ่งเดือนพลิกไข่ 1 ครั้ง สามารถเก็บรักษาไข่ไก่ได้ 3-4 เดือน ไม่เสีย
7. เอาไข่สดใส่ในช่องแช่เย็นของตู้เย็น สามารถเก็บรักษาความสดได้ 2 เดือน
8. เอาน้ำมันที่ทำอาหารทาลงบนไข่ สามารถป้องกันแบคทีเรียเข้าไป ในฤดูร้อนสามารถเก็บรักษาไข่ไก่ได้ประมาณ 1 เดือน
9. เอาไข่ลวกลงไปในน้ำร้อน 90-100 องศาเซลเซียส 5-7 วินาที แล้วเอาขึ้นตากแห้ง เอาไว้ในที่แห้งลมโกรก สามารถเก็บรักษาไข่ได้ 2 เดือน
สูตรน้ำส้มสายชูกับไข่ไก่
สูตรน้ำส้มสายชูกับไข่ไก่ ต้องเลือกไข่ที่สุด แช่ลงในน้ำส้มสายชู ไข่ 1 ฟอง ต่อน้ำส้มสายชู 100-180 มิลลิลตร แช่เป็นเวลานาน 48 ชั่วโมง แล้วทุบไข่ให้แตก แช่ไว้อีก 24 ชั่วโมง แล้วนำเอามาดื่ม ซึ่งเป็นวิธีผลิตยาอาหารบำรุงที่วิเศษอีกอย่างหนึ่ง
ในการผลิตสูตรนี้ น้ำส้มสายชูต้องเลือกคุณภาพดี ประมาณกรดน้ำส้ม 9 % ไม่มีสี หากไม่มีปริมาณกรดระบุไว้ ก็ให้เลือกเอาที่คุณภาพเชื่อถือได้ แต่เวลาแช่ไข่อาจจะนานมากขึ้น ทั้งนี้ให้สังเกตว่าเปลือกไข่อ่อนตัวหรือนุ่มลง ถือว่าใช้ได้แล้ว
สูตรน้ำส้มสายชูกับไข่ ถือว่าเป็นอาหารบำรุงร่างกายอย่างหนึ่ง ไม่ขัดกันกับตัวยาชนิดอื่น เวลาที่รับประทานยารักษาโรคประจำอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องระงับการใช้แต่อย่างใด ในระหว่างการดื่มนั้น หากไม่มีผลข้างเคียง สามารถดื่มติดต่อกันนาน ๆ ได้ ไม่มีผลเสียหายใด ๆ ดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
น้ำส้มสายชูและไข่ไก่ เมื่อได้นำมาปฏิบัติตามสูตรแล้ว ไม่เพียงแต่มีผลต่อการบำรุงร่างกายและการรักษาโรคด้วยน้ำส้มสายชูและไข่ไก่ได้ดีเท่านั้น ไข่เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำส้มสายชูแล้ว โมเลกุลจะแตกหักเป็นโมเลกุลที่เล็กลง ฟอสฟาไทด์และแร่ธาตุชนิดอื่น ๆ จะแตกตัวออก ทำให้ลำไส้ดูดซึมได้ง่ายยิ่งขึ้น
ไข่ขาวเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นอกจากจะมีกรดที่สลายแบคทีเรียที่สมบูรณ์แล้วยังมีสารต่อต้านมะเร็งอีกด้วย เมื่อนำไข่ขาวลงแช่ในน้ำส้มสายชูแล้ว โมเลกุลของไข่ขาวจะแตกแยก ขนาดเล็กลง สารกรดสลายแบคทีเรียและสารต่อต้านมะเร็ง ก็จะแพร่กระจายออกมา ซึ่งมีประโยชน์ในการรักษาโรค
เปลือกไข่เมื่อแช่น้ำส้มสายชูแล้วจะอ่อนนิ่มแยกละลายกลายเป็นแคลเซียม กรดน้ำส้มสายชูละลายในน้ำได้ง่าย แคลเซียมสามารถให้ลำไส้เล็กดูดซึมเข้าไปได้ง่าย แคลเซียมมีบทบาททำให้กระดูกเจริญเติบโต และยังสามารถป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
สรุปแล้วน้ำส้มสายชูกับไข่ไก่ สามารถปรับสมดุลในร่างกาย แก้ไขและยกระดับระบบการเกิดและย่อยสลายของเซลล์ในร่างกายให้ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของร่างกายเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
โรคที่รักษาแล้วเห็นผลชัดเจนได้แก่โรค ความดันโลหิตสูง โรคที่เกิดจากหลอดเลือดอุดตันในสมอง โรคหลอดลมอักเสบ โรคปวดเมื่อย นอนไม่หลับ โรคท้องผูก กระเพาะอาหารหย่อนคล้อย โรคไหล่อักเสบ โรคเบาหวาน ฯลฯ
โรคที่ตอบสนองต่อการรักษา ได้แก่ โรคลำไส้อักเสบ โรคเลือดไปเลี้ยงสมองและหัวใจไม่เพียงพอ โรคปวดประสาท โรคประสาทอ่อน โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง โรคอาการเหงื่อออกมาก ไตอักเสบผิวหนังอักเสบ โรคกระดูกงอก ปากมีกลิ่นเหม็น ฯลฯ จนกระทั่งโรคที่เป็นเรื้อรังรักษาไม่หาย เมื่อได้ดื่มน้ำส้มสายชูผสมไข่ไก่แล้ว ก็ทำให้อาการดีขึ้น จนถึงขั้นหายขาดในเวลาอีกไม่นาน