ไข่ดองน้ำส้มสายชูหมัก
ยาอมตะชุด 1 รักษา เบาหวาน ความดัน หัวใจ เก๊าท์ อัมพฤกษ์ อัมพาต ปวดข้อ ไหล่ติด หมดความรู้สึกทางเพศ ทำให้หลอดเลือดสะอาด สร้างภูมิต้านทาน ใบหน้าอ่อนวัย ไม่มีสิว
นมบัวหิมะธิเบต หรือ คีเฟอร์
สรรพคุณ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มภูมิต้านทานต่อสู้กับเชื้อโรค ช่วยให้ตับ ม้ามแข็งแรง รักษากระเพาะ และลำไส้ รักษาอาการภูมิแพ้ แพ้อากาศ ทำให้ความดันเป็นปกติ ป้องกันการขยายตัวของมะเร็ง ช่วยละลายนิ่ว อุดมด้วยแคลเซียม ตามธรรมชาติ ฯลฯ
น้ำหมัก ผัก ผลไม้ สมุนไพร เพื่อสุขภาพ
ประโยชน์ของเอนไซม์ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง โดยน้ำหมักจะช่วยให้เซล์ต่าง ๆ แข็งแรง มีอายุยืน และให้พลังงานในการกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติทันที ไม่ปล่อยให้ลุกลามเป็นเนื้อร้าย ทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ลดคลอเลสเตอรอล ฯลฯ
น้ำชาหมักเพื่อสุขภาพ คอมบูชา
ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ลดอาการปวดศีรษะไมเกรน และโรคข้ออักเสบ ลดอาการผิดปกติของภาวะเมตาบอลิซึม ลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์ เบาหวาน โรคเครียดและมะเร็ง ยับยั้งเชื้อที่ก่อโรคในระบบทางเดินอาหารหลายชนิด
วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วิธีแสดงความคิดเห็น
1. ให้สมัครบัญชีของกูเกิ้ลก่อนนะครับถึงจะแสดงความคิดเห็นในบล็อคนี้ได้
2. ไม่ขอตอบเรื่องเกี่ยวกับไข่ดองน้ำส้มสายชูหมักนะครับ
เพราะทางหน่วยงานราชการออกมาเตือนแล้ว
ถ้าผมยังขืนดันทุรังไป ผมอาจติดตารางได้ !?!
แต่ที่ผมทานเองและให้คนใกล้ชิดทานก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
คือถ้ามีอาการปวดตามร่างกายจนทนไม่ไหวก็ให้หยุดเท่านั้นเอง
และผมจะใช้สูตรไข่ดองนี้ในกรณีที่มีการอุดตันของเส้นเลือด
และมีอาการหินปูนพอก ตามข้อต่าง ๆ ของร่างกาย เท่านั้น
ส่วนโรคอื่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง มะเร็ง
ผมไม่แนะนำให้ใช้สูตรไข่ดองครับ เพราะมีสูตรอื่นที่เหมาะสมกว่า
3. ถ้าผมเห็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม ผมขอลบนะครับ
เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของผู้ใด
4. ถ้ามีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติม หรือจะให้ลงเกี่ยวกับเรื่องอะไรเพิ่มเติม
กรุณาช่วยแนะนำได้ที่นี่นะครับ จักเป็นพระคุณอย่างสูง
***ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อคนะครับ***
ปล. บล็อคนี้ ไม่สนับสนุนการใช้สารเคมีและของนอกนะครับ
เพราะใช้หลักของหมอชีวก โกมารภัจจ์คือ
"โรคเกิดที่ไหน ยาก็อยู่ที่นั่น" และ "ต้นไม้ใบหญ้าทุกชนิดมีสรรพคุณเป็นยา"
ถ้าไม่ใช่โรคเวรโรคกรรมจริง ๆ โรคทุกโรคมีทางออก
มีทางบรรเทารักษาได้ครับ
วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555
แปะตำปึง สมุนไพรครอบจักรวาล
ชื่ออื่นๆ : แปะตำปึง หรือ จักรนารายณ์
ลักษณะ : เป็นไม้พุ่มเตี้ย ลำต้นสีเขียว แตกกิ่งก้านอ่อน หักง่าย เมื่อโตเต็มที่ใน ฤดูหนาว จะออกดอกสีเหลืองมีก้านยาว แปะตำปึง มี 2 ชนิดคือ
การปลูก : ขยายพันธ์โดยการปักชำ ให้ตัดกิ่งที่มีท่อนยาว 10-15 ซ.ม. เด็ดใบออกให้หมดนำไปรับปะทาน นำกิ่งมาปักชำ ไว้ในที่รำไร และหมั่นรดน้ำเสมอๆ เช้า-เย็น ประมาณ 7-10 วัน ก็จะแตกยอด ออกราก เป็นต้นใหม่ เมื่อโตเต็มที่จะออกดอกสีเหลือง ส่วนเมล็ดเพาะไม่ขึ้น ต้องปักชำกิ่งเท่านั้น
แปะตำปึง ไม่ชอบร่มมากนัก ชอบดินร่วน ชอบแดดพอควร ชอบน้ำ แต่อย่าให้มีที่รองน้ำก้นกระถาง รากจะเน่า
สรรพคุณ : สรรพคุณของทั้งสองมีเหมือนกัน มีรสเย็น ใช้ใบเป็นยา รสชาติคล้ายใบชมพู่สาแหรก โรค(ที่มีผู้รับรองว่า)สมุนไพรชนิดนี้รักษาหายแล้วได้แก่ เบาหวาน ความดันสูงภูมิแพ้ หอบหืด มะเร็ง งูสวัด เกาต์ ริดสีดวงทวารหนัก ขับนิ่ว แผลสะเก็ดเงิน แผลอักเสบพุพอง ฝีหนอง ปวดประจำเดือน ปวดเส้น ปวดหลัง ไขมันในเลือด ไทรอยด์ ตาอักเสบตาเป็นต้อ โรคตาต่างๆ ปวดเหงือก ปวดฟัน โรคกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โลหิตจาง ฟอกเลือด ล้างสารพิษในร่างกาย ขับลม กินได้ นอนหลับ คนปกติทั่วไปกินแล้วสุขภาพแข็งแรง เรียกว่าเป็นสมุนไพรครอบจักรวาลเลยทีเดียว
วิธีใช้ : เป็นพืชสมุนไพรครอบจักรวาลที่ไม่มีพิษภัย ใช้ใบสดๆ ล้างให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง นำมาเคี้ยวกินสดๆหรือใช้ประกอบอาหารกิน เช่นแกงจืดหรือผัดน้ำมัน หรือเป็นเครื่องเคียงกับขนมจีน ส้มตำ สลัดผัก ฯลฯได้ หรือจะนำใบมาล้าง ผึ่งแห้ง นำมาบดหรือตำ คั้นเอาแต่น้ำนำไปนึ่งให้สุก ปล่อยให้เย็น ใส่ขวด ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน แต่ที่ได้ผลดีที่สุด คือกินใบสด ก่อนเข้านอน 3-5 ใบ
วิธีใช้เฉพาะโรค :
โรคเบาหวาน - กินใบสดๆ 2-5 ใบ ช่วงตี 5 -ถึง 7 โมงเช้าก่อนอาหาร เพราะลำไส้เริ่มทำงานจะได้ผลเร็ว และกินอีกครั้งหลังอาหารเย็น 2-3 ชั่วโมงหรือกินก่อนนอน กินเช่นนี้นาน 7 วัน หยุดดูอาการ 2-3 วัน จึงกินต่อเพื่อน้ำตาลในเลือดจะได้ไม่ลดเร็วเกินไป (ขอเสริมตรงนี้นิดนึงว่า ปริมาณการกินของแต่ละคนอาจไม่เท่ากันขึ้นกับขนาดของใบและน้ำหนักตัว จึงขอให้คนป่วย เบาหวานทดลองกินจำนวนใบน้อยๆ ก่อนแล้วคอยดูอาการ เพราะเคยมีคนบอกว่าบางคนกินแล้วน้ำตาลลดแบบฮวบฮาบ ซึ่งไม่รู้ว่ากินเยอะไปหรืออย่างไรและบางคนบอกว่าใบยาวลดน้ำตาลได้มากกว่าแบบใบกลมด้วย และพืชชนิดนี้ยังไม่มีผลการวิจัยรองรับเป็นทางการ จึงควรใช้ด้วยการระมัดระวังไว้ก่อนล่ะดี)
โรคตา – นำใบสด ๆ มาล้างให้สะอาด บด-โขลกในครกสะอาดๆ ให้แหลก แล้วนำมาพอกตาข้างที่อักเสบหรือมัว นาน 30 นาที ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำ พอกเช้า-เย็น ตาจะดีขึ้นเร็ว
มะเร็งและความดันสูง-ต่ำ - ให้กินเป็นผัก เช่น จิ้มน้ำพริก ทุกวัน ถ้าเป็นมะเร็งกินก่อนนอน 5-7 ใบ ก่อนนอน ประมาณ 6 เดือน มะเร็งจะลดขนาดลง
งูสวัด - นำใบมาตำกับน้ำตาลทรายแดง เพื่อให้จับตัวเป็นก้อน ไม่หลุดง่าย พอกตรงรอยแผลไว้30 นาที หรือใช้น้ำคั้นทาก็ได้
ริดสีดวงทวารหนัก - ตำใบสดแล้วใส่ในทวาร จะทำให้หายเร็ว ติ่งที่โผล่จะยุบ เลือดที่ออกจะหยุด
โรคกระเพาะ - ถ้าปวดท้องและเป็นโรคกระเพาะ ให้กินเดี๋ยวนั้น สักพักอาการปวดจะหายไปยังช่วยขับลมที่แน่นในท้องออกมาได้ด้วย
สิ่งที่ควรระวัง- อาหารแสลง เช่น กุ้ง เนื้อ ปลาหมึก ปู ปลาทู ปลาร้า หูฉลาม กะปิ ข้าวเหนียวหน่อไม้ แตงกวา หัวผักกาด เผือก สาเก ของดอง แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ควรงด แต่หากจำเป็นต้องกิน ขอให้กินแปะตำปึง ก่อนหรือหลัง 2 ชั่วโมง
การปลูกใช้เอง ไม่ควรใช้ยาฆ่าแมลง หรือถ้ามีการใช้ปุ๋ย ควรทิ้งไว้อย่างน้อย 1 อาทิตย์ก่อนเก็บใบมาใช้ และควรล้างให้สะอาดๆก่อนนำมาใช้ (โดยเฉพาะการพอกตา)
น่าจะเรียกว่า จินฉี่เหมาเยี่ยมากกว่า เพราะใบยาว
แต่เห็นส่วนมากก็เรียกรวม ๆ กันว่าแปะตำปึง เหมือนกันหมด
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555
ธรณีสาร รักษาแผลในปาก เหงือกบวม ปวดฟัน
วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555
ว่านมหากาฬ ดับพิษ เริม งูสวัด แมงป่อง
ปลูกง่ายมากครับ จากที่เลี้ยงไว้ได้เดือนกว่า ๆ รู้สึกว่า
เค้าชอบร่ม ๆ ใต้ต้นไม้ แต่ต้องมีแสงบ้าง ชอบอากาศเย็น ๆ ชื้น ๆ สักหน่อย
โตไวมากครับ ผมเลี้ยงไว้เดือนกว่า มีกิ่งยาวออกมาข้าง ๆ 2 กิ่ง
และนี้มีต้นเล็ก ๆ แทงขึ้นมาแล้ว 2 ต้นครับ
ส่วนภาพด้านบนนั้น จำเป็นต้องบังคับสัดส่วนให้ได้ 4:3